CONTENT SEEDING ที่ดี ต้องทำอย่างไร

Content Seeding เป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ในการกระจายเนื้อหา เผยแพร่ไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอ่าน สังเกต รับรู้ และค้นหา ถูกเผยแพร่อย่างบ่อยครั้ง ผู้สร้างเนื้อหาจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ผ่านการพูดถึงโดยตัวแทนของผู้ใช้งาน ผู้มีอิทธิพลทางความคิดเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล หรือการซื้อโฆษณา (โพสต์ที่ได้รับการสนับสนุน) โดยหวังให้เชื่อมโยงเนื้อหาเข้าสู่ประสบการณ์ของผู้อ่านอย่างแนบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน การสร้างเนื้อหาต้องสร้างสรรค์ มีคุณภาพสูง มีคุณค่าในการโน้มน้าวใจและตอบสนองความต้องการของผู้อ่าน

ขอบเขตงานของ Content Seeding ครอบคลุมตั้งแต่การจ้างให้ผู้คน พูดถึงเนื้อหาที่ได้วางแผนในฐานะผู้ที่ได้ใช้งานจริง ไว้ตามแพล็ตฟอร์มต่างๆ เพื่อหวังความครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ ที่ลูกค้าอื่นมีโอกาสจะเห็น การสืบค้นผ่าน Search Engine จะอยู่ในอันดับต้นๆ หรือมีตัวเลือกเพื่อเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจให้ง่ายขึ้น การสร้างกระแสผ่านกลวิธีแพร่กระจายแบบปากต่อปาก จนไปถึงการให้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดบนโลกออนไลน์ (Online Influencer) พูดถึงอย่างจงใจ

การทำ Content Seeding มักจะใช้ต้นทุนที่ต่ำ และทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รับความนิยม มีกระบวนการในการทำงาน ดังนี้

1. สร้างเครือข่ายหรือมองหากลุ่มชุมชนที่มีศักยภาพ และรักษาความสัมพันธ์กับผู้คนในเครือข่ายนั้นตลอด
2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายในแต่ละหัวข้อ ทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุมผ่านการวิจัยฐานข้อมูลที่มีต่อเนื้อหาและการตอบสนองต่อเนื้อหาในแบบต่างๆ (Customer Insight) พฤติกรรมในการใช้งาน รวมถึงการกำหนดเป้าหมายเชิงปริมาณที่แตกต่างกันบนแต่ละแพล็ตฟอร์ม
3. วางแผนการผลิตเนื้อหาจริง ให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งประเภทของเนื้อหา การกำหนดลักษณะของเนื้อหาที่ต้องพูดถึงในด้านบวกและเป็นกลาง มากกว่ากล่าวถึงข้อเสีย ใส่ความคิดเห็นส่วนตัวลงไปได้ว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือมีข้อสังเกตและควรระวังอย่างไรความยาว การเลือกใช้ภาพประกอบหรือวีดีโอในแบบต่างๆ ให้เหมาะสมสำหรับการสื่อสาร เป็นรูปที่มีความสมจริง มากกว่าสวยเกินจริง สามารถจัดวางองค์ประกอบของภาพให้ดูสวยงามได้ เอื้อต่อการแบ่งปันส่งต่อได้ง่าย รวมทั้งวางแผนรองรับการค้นหาผ่าน Search Engine
4. ค้นหาผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรือเลือกผู้ใช้งานทั่วไปที่มีประสบการณ์ในการใช้สินค้าหรือบริการนั้นจริง เพื่อให้นำเสนอเนื้อหาในแง่มุมที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือตามกลวิธีการเล่าเรื่องของแต่ละคนมากที่สุด และคอยติดตามประสิทธิภาพการสื่อสารของผู้มีอิทธิพลทางความคิด สำหรับนำมากำหนดทิศทาง โครงสร้าง หรือรูปแบบของเนื้อหาให้ตรงตามวัตถุประสงค์ แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของการเล่าเรื่องเดิมอยู่ และไม่ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการด้วย ข้อควรระวังคือควรตรวจสอบว่าผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรือผู้ใช้งานทั่วไปที่เลือกไว้ว่ามีประวัติที่ดีหรือไม่ เช่น เคยสร้างเรื่องที่มีข้อพิพาษกับผู้คนบนโลกออนไลน์ เคยมีประวัติขายของออนไลน์แล้วโกงลูกค้า รีวิวเกินจริงหรือถี่จนเกินไป
5. ติดต่อและอธิบายลักษณะงานให้ชัดเจน ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่ว่าผู้มีอิทธิพลทางความคิดทุกคนจะรับงาน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยรู้จักหรือร่วมงานกันมาก่อน ดังนั้น แม้ว่าจะรู้วิธีการในการติดต่อ ก็ควรจะต้องศึกษาลักษณะงานที่ผู้มีอิทธิผลทางความคิดนั้นเคยทำมาในงานเก่าๆ มาก่อนเสมอ อธิบายงานด้วยความสุภาพ มืออาชีพ ตรงประเด็น ทั้งโครงสร้างการทำงาน เป้าหมายในแต่ละหัวข้อ กลยุทธ์ในการเผยแพร่เนื้อหาในวงกว้าง และรับฟังในสิ่งที่ผู้มีอิทธิพลทางความคิดให้ข้อเสนอแนะ เพราะเขาคือคนที่เข้าใจธรรมชาติของผู้ติดตามได้ดีที่สุด รวมถึงศิลปะในการโน้มน้าวใจให้รับทำงาน ด้วยการพูดถึงคุณค่าอื่นๆที่เขาจะได้รับหากรับทำงานนี้
6. วางแผนการเผยแพร่เนื้อหาอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้กลยุทธ์น้อยไปสู่มาก พูดถึงในวงแคบก่อนที่จะขยายเป็นวงที่กว้างมากขึ้นด้วยผู้มีอิทธิพลทางความคิดช่วยเร่งให้เกิดการแพร่กระจายในตอนท้าย กลยุทธ์จุดพลุ โดยใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิดจำนวนมากเป็นคนเปิดประเด็นให้เกิดการรับรู้ก่อน และให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ พูดถึงในทิศทางที่สอดคล้องกัน หรือการใช้ผู้มีอิทธิพลทางความคิด สลับกับผู้ใช้งานคนอื่นๆ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม
7. การสอดส่องและวิเคราะห์ผลลัพธ์ในการทำงาน ว่าเนื้อหาที่ได้แพร่กระจายไป ส่งผลด้านใดต่อแคมเปญ ทั้งจากจำนวนที่ผู้มีอิทธิพลทางความคิดได้พูดถึงหรือยินดีที่จะส่งต่อ จำนวนเนื้อหาที่กระจายตามกลุ่มเป้าหมายต่างๆ มากน้อย มีความถี่แค่ไหน ตรงตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่ การรับรู้ที่วัดผลจากจำนวน Reach หรือ Impression รวมถึงการตอบสนองของผู้คนที่มีต่อเนื้อหาดังกล่าวว่าเป็นไปในทางบวก กลางๆ หรือทางลบ เพื่อนำมาปรับปรุงวิธีการนำเสนอเนื้อหา และวางแผนสำหรับการลงเนื้อหาในครั้งหน้าหรือในแคมเปญถัดไป ขณะเดียวกัน ไม่ควรที่จะลืมจัดการฐานข้อมูลของผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่ได้เลือกไว้อย่างเป็นระบบ ทั้งข้อมูลในการติดต่อ และประสิทธิภาพในการทำงาน สำหรับวิเคราะห์ความคุ้มค่าในการเลือกใช้บริการในครั้งถัดไป
8. เก็บรักษาเครือข่ายที่สร้างขึ้นไว้ ทั้งความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อผู้มีอิทธิพลทางความคิด เครือข่ายในกลุ่มย่อยต่างๆ หรือกลุ่มผู้เขียนเนื้อหาเอง เพื่อสร้างความมั่นใจว่าในครั้งต่อไปจะสามารถทำงานร่วมกันด้วยความราบรื่น

ความท้าทายของการทำ Content Seeding ในปัจจุบันคือ ผู้บริโภคมีความรู้เท่าทันในการพูดถึงสินค้าและบริการด้วยความจงใจ จากการสังเกตความน่าเชื่อถือของผู้ใช้งานทั่วไปที่มีจำนวนการพูดถึงอย่างผิดสังเกต ความถี่ในการรับงานของผู้มีอิทธิพลทางความคิด รวมถึงการกล่าวถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่เกินจริง ดังนั้นจึงควรปรึกษาเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดด้านนี้ ที่มีประสบการณ์ในการวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ งบประมาณ หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงการมีเครือข่ายของผู้มีอิทธิพลทางความคิดที่จะช่วยให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น

อ้างอิง:
https://www.textbroker.com/content-seeding
‍ https://www.theprocontent.com/seeding-marketing-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/
https://th.martech.zone/whats-the-difference-buzz-viral-word-of-mouth-marketing/

บทความอื่นๆ

• สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่าน Content Marketing : ดึงดูดลูกค้าด้วยเนื้อหาที่ทรงพลัง
• เทรนด์ X ที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2024 : อะไรคือกระแสที่มาแรง คนพูดถึงอะไรกัน
• กลยุทธ์การตลาดบน Twitter ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยปี 2024
• เผยกลยุทธ์ลับ เลือก Influencer Marketing Agency อย่างไรให้ปัง
• พลังแห่ง Storytelling : สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านเรื่องราวที่ดึงดูดใจ
• กลยุทธ์การเลือกใช้ Hashtag ให้เหมาะสม
• Content Seeding ที่ดี ต้องทำอย่างไร
• Digital Branding Strategy – GSB Cards
• Twitter Trends #ของมันต้องมีก่อน 40
• Delivering Results
  
• Content Strategy